เสือทำไมจึงตัวลาย
ตั้งแต่เก่าก่อนโบราณมา คนกับสัตว์ทุกชนิดเป็นเพื่อนกัน มีครอบครัวหนึ่ง ไก่ เสือ และคน อาศัยอยู่ด้วยกัน วันหนึ่ง ไก่ เสือ คน พากันไปเกี่ยวหญ้ามามุงหลังคาบ้าน ในวันนั้น ไก่ เสือ คน เป็นเวรผลัดเปลี่ยนกันหาอาหารมาเลี้ยงดูกัน
อาหารมื้อแรกเป็นเวรของไก่ ไก่หาอาหารได้โดยไม่ยากเพราะไก่ไปเก็บผักมาแล้วก็ออกไข่ ปรุงเป็นอาหารให้เพื่อนกินอย่างอิ่มหนำสำราญ
อาหารมื้อที่สองเป็นเวรของเสือ เสือก็หาอาหารได้โดยไม่ยากเพราะไปคาบวัวป่ามาแล้วทำลาบก้อยกินอย่างอิ่มหนำสำราญ
อาหารมื้อที่สามเป็นเวรของคน คนหาอาหารด้วยวิธีฉลาดแกมโกง โดยครั้งแรกคนคิดจะเลียนแบบการหาอาหารเลียนแบบเสือ ไปกระโดดหักคอวัวในป่า วัวป่าขวิดชายโครงเป็นบาดแผล จึงคิดจะหาอาหารแบบนกกะยางคือ ขึ้นไปบนต้นไม้ริมหนองน้ำคอยดูปลา เห็นขอนไม้ลอยมานึกว่าปลาตัวโตกระโดดลงไปตะครุบคางกระทบไม้จนบวม จึงคิดจะหาอาหารแบบไก่โดยขึ้นไปเกาะกิ่งไม้แล้วโก่งคอขันแบบไก่ เมื่อขันแต่ละครั้งก็ถ่ายอุจจาระออกมาหนึ่งก้อน จนได้อุจจาระเต็มหม้อแล้วนำไปผัดใส่ผักตำลึง เมื่อถึงเวลากินข้าวก็ลงนอนทำทีเป็นไข้จับสั่น
เมื่อถึงเวลากลับบ้าน เสือสงสารคนจึงเอาหญ้าบรรทุกใส่หลังตนให้คนขี่ ไก่จึงฝากน้ำมันยางห้อยไว้ชายโครงเสือเพราะขี้เกียจถือ เสือบอกกับคนว่า "ห้ามสูบบุหรี่" คนก็รับคำแต่ก็อดไม่ได้จึงเอาบุหรี่มามวน เมื่อจุดไม้ขีดเกิดเสียงดังป๊อก ๆ เสือเลยถามว่า "เธอทำอะไร" คนตอบว่า "เราเป็นไข้จับสั่นฟันกระทบกัน" การที่คนสูบบุหรี่ทำให้ขี้บุหรี่หล่นลงมาบนหลังเสือ เกิดไฟไหม้หญ้าที่เสือบรรทุกไว้ เมื่อไฟโดนน้ำมันยางที่ไก่เอามาแขวนไว้จึงลุกโพรงเสือร้อนจึงวิ่งไม่หยุด ไก่จึงร้องบอกให้เพื่อนวิ่งไปโดดลงน้ำ กว่าจะถึงหนองน้ำไฟก็ไหม้เสือจนตัวลาย เสือจึงตัวลายจนกระทั่งทุกวันนี้ และเสือจึงอาฆาตเป็นศัตรูกับคนและไก่ตั้งแต่นั้นมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น