วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

คำสมาสมีสนธิ

คำสมาสมีสนธิ
คำสมาสมีสนธิ    คือการสร้างคำใหม่    โดยการนำคำในภาษาบาลี   และภาษาสันสกฤต   ตั้งแต่  ๒ คำขึ้นไปมารวมกันแล้ว   ทำให้เกิดคำใหม่    มีความหมายใหม่   มีความหมายคงเดิม   มีความหมายเพี้ยนไป หรือมีความหมายอยู่คำหน้าคำเดียว   ลักษณะเดียวกับคำสมาส     แต่คำสมาสมีสนธิจะมีการกลมกลืนเสียงหรือมีการเชื่อมเสียง   โดยมีการเปลี่ยนแปลงสระและพยัญชนะในพยางค์สุดท้ายของคำแรก   และในพยางค์แรกของคำหลัง
มีหลักสังเกตดังนี้

สระสนธิ

. อะ , อา + อะ , อา     มีตัวสะกด   =   อะ  , อา เช่น
            วน+อันดร         วนันดร              พุทธ+อันดร                   พุทธันดร
            กต+อัญชลี         กตัญชลี             อัฎฐ+อังคิกมรรค            อัฏฐังคิกมรรค
            ทาน+อัธยาศัย     ทานนัธยาศัย      มหา+อัศจรรย์                 มหัศจรรย์
            ทีฆ+อัมพร         ทีฆัมพร             มหา+อรรณพ                 มหรรณพ
            สุร+อังค์            สุรางค์               เสน+อังค์                      เสนางค์
            อุตม+อังค์          อุตมางค์             สต+อังค์                        สตางค์
            มหา+อาตม        มหาตม               นิร+อันดร                     นิรันดร
. อะ , อา + อะ , อา  ไม่มีตัวสะกด  =       อา  เช่น
            เกษตร+อธิการ    เกษตราธิการ      นร+อธิบดี                     นราธิบดี
            วร+อาภรณ์        วราภรณ์            ศาสตร+อาจารย์              ศาสตราจารย์
            วันทนา+อาการ   วันทนาการ        ศึกษา+อธิการ                 ศึกษาธิการ
            ประชา+อภิบาล  ประชาภิบาล       ประชา+อากร                 ประชากร
            คงคา+อาลัย       คงคาลัย              ชล+อาศัย                      ชลาศัย
. อะ , อา + อิ ,อี  =  อิ ,  เอ    เช่น
            เทว+อินทร์        เทวินทร์             นร+อินทร์                     นรินทร์
            นร+อิศวร          นเรศวร             ราช+อินทร์                    ราชชินทร์
            มหา+อินทร์       มหินทร์              มหา+อิสี                       มเหสี
            มหา+อิทธิ         มหิทธิ                ธารา+อินทร์                   ธารินทร์
. อะ , อา + อี =  อี
            อุตร + อีสาน      อุตรีสาน             สัพพ+อีติ                       สัพพีติ
. อะ ,อา + อุ  =  อุ , อู , โอ , เอา     เช่น
            ภัณฑ+อุปกรณ์   ภัณฑุปกรณ์         พุทธ+อุบาท                   พุทโธบาท
            มัคค+อุเทศก์      มัคคุเทศก์            ราช+อุปโภค                  ราชูปโภค
            นย+อุบาย          นโยบาย              สาธารณ+อุปโภค            สาธารณูปโภค
            สุข+อุทัย            สุโขทัย              มหา+อุฬาร                    มโหฬาร
. อะ , อา + อู  =  อู  เช่น
            เอก+อูน                        เอกูน
. อะ, อา+เอ  = เอ   เช่น
            อน + เอก          เอนก                        ปัจจ+ เอกชน                 ปัจเจกชน
            อภิษิต+ เอกราช  อภิษิเตกราช
.  อะ อา + ไอ  =  ไอ   เช่น
            โภค+ ไอศวรรย์        โภไคศวรรย์      หา+ไอศูรย์                  มไหศูรย์
            มหา+ ไอศวรรย์         มไหศวรรย์       มหา+ไอยรา                   มไหยรา
. อะ , อา + โอ   = โอ     เช่น
            พุทธ+โอวาท         พุทโธวาท            วร+โอกาส                     วโรกาส
            สุทธ+โอทนะ        สุทโธทนะ           มหา+โอสถ                    มโหสถ
๑๐. อะ , อา + เอา      เช่น
            ปิย + เอารส                   ปิเยารส
๑๑. อิ , อี + อิ , อี  =   อิ , อี , เอ     เช่น
            มุนิ + อินทร์         มุนินทร์            อริ+อินทร์                      อินทร์
            กรี+อินทร์           กรินทร์             เทพี+อินทร์                    เทพินทร์
            นารี+อินทร์        นารินทร์            ไพรี+อินทร์                   ไพรินทร์
            นารี+อิศวร         นารีศวร             อัมพร+อินทร์                 อัมพรินทร์
๑๒. อิ , อี + สระอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ อิ , อี  มีวิธีการทำ ๒  วิธี  คือ
ก.      ลบ อิ , อี  แล้วต่อกับสระหลัง  เช่น
ราชินี + อุปถัมภ์     ราชีนูปถัมภ์         ราชินี+โอวาท          ราชิโนวาท
หัตถี+อาจารย์         หัตถาจารย์           หัสดี+อาภรร์          หัสดาภรณ์
ศักดิ+อานุภาพ        ศักดานุภาพ         ฤทธิ+อานุภาพ        ฤทธานุภาพ
สิทธิ+อานุภาพ       สิทธานุภาพ         อิทธิ+อานุภาพ        อิทธานุภาพ
หัสดี+อลังการ        หัสดลังการ          มหิทธิ+อานุภาพ      มหิธานุภาพ
            . แปลงอิ, อี      เป็นตัว ย  แล้วต่อกับสระหลัง  ตามวิธีที่ ๑  เช่น
            ขันติ+อาคม        ขันตยาคม                มติ+อธิบาย          มตยาธิบาย , มัตยาธิบาย
            อธิ+อาตม          อธยาตม ,อัธยาตม       อธิ+อาศัย           อธยาศัย , อัธยาศัย
            นันทิ+อารมณ์    นันทยารมณ์              สันติ+อารักษ์       สันตยารักษ์
            อติ+อันต์           อตยันต์ , อัตยันต์        ปรติ+อุบัน         ปรัตยุบัน
หมายเหตุ  เมื่อแปลง อิ , อี เป็น  ย แล้ว  ถ้าพยัญชนะหน้า    ซ้ำกันให้ตัดออก ๑  ตัว
            อัคคี+อาคาร         อัคยาคาร           สามัคคี+อาจารย์             สามัคยาจารย์
            อัคคี+โอภาส        อัคโยภาส         รัตติ+อานันท์                 รัตยานันท์
            วัลลี+อาภรณ์       วัลยาภรณ์
            เมื่อแปลง อิ , อี เป็น ย  แล้ว  พยัญชนะหน้า ย  เป็น   ,     สามารถเปลี่ยน ตย , ฏย  ให้เป็น  จจ ได้
            ปฏิ+อมิตร         ปฎยมิตร            ปัจจามิตร
            ปฏิ+อุบัน           ปฎยุบัน             ปัจจุบัน
            ปฏิ+เอก            ปฎเยก               ปัจเจก
๑๓. อุ , อู + อุ , อู  =  อุ , อู   เช่น
            เหตุ+อุทัย          เหตุทัย             คุรุ+อุปกรณ์      คุรุปกรณ์
            สินธุ+อุปจาร     สินธูปจาร        วิญญู+อุปเทศ     วิญญูปเทศ
        อุ , อู + สระอื่น ท่ไม่ใช่  อุ , อู  ต้องแปลง อุ , อู เป็น    แล้วตามด้วยสระของตัวหลัง
            พหุ+อาหาร       พหวาหาร                      คุรุ+อุปกรณ์        คุรโวปกรณ์
            ธนู+อาคม         ธนวาคม , ธันวาคม         ธาตุ+อากร           ธาตวากร
            จตุ+อังค์           จตุวางค์ , จัตวางค์            เหตุ+อเนกรรถ     เหตวาเนกรรถ   

พยัญชนะสนธิ

            คือการเชื่อมคำด้วยพยัญชนะ  คำมูลตัวหน้ามีท้ายคำเป็นพยัญชนะ  และคำมูลตัวหลังมีหน้าคำเป็นพยัญชนะ  สนธิเข้าด้วยกันโดยวิธี  อาเทโส  คือแปลงบ้าง   วิธีโลโป  คือลบทิ้งบ้าง   (อักขรวิธีการสร้างคำของบาลีและสันสกฤต)  เช่น  วิธี  อาเทโส         เป็น สระโอ
            มนสส + รมย์                 มโนรมย์                        ความรื่นรมย์ใจ
            รหส+ฐาน                     รโหฐาน                        สถานที่ลี้ลับ
            มนส+ภาพ                     มโนภาพ                       ภาพที่เกิดทางใจ
            เตชส+ธาตุ                     เตโชธาตุ                        ธาตุไฟ
            ยสส+ธร                        ยโสธร                           ทรงไว้ซึ่งยศ
                        วิธีโลโป  คือลบพยัชนะบางตัว  เช่น
            นิรส+ภัย                       นิรภัย                            ไม่มีภัย
            นิรส+ทุกข์                     นิรทุกข์                          ไม่มีทุกข์
            พรหมส+ชาติ                 พรหมชาติ                     การเกิดแห่งพรหม
            ศุภมส+อัสดุ                   ศุภมัสสุ                         ขอความสุขจงเกิดมี
                                                                             เป็นต้น

นิคหิตสนธิ หรือ นฤคหิตสนธิ

            คือ การสนธิโดยคำมูลตัวหน้ามีนฤคหิต  แล้ว  แผลงนฤคหิตเป็นพยัญชนะ ตัวสุดท้ายของพยัญชนะวรรคนั้น ๆ ถ้าเป็นสระก็แปลงเป็นพยัญชนะตามที่กำหนด แล้วสนธิเข้ากับคำมูลคำหลัง
            วรรคกะ แผลงนฤคหิต  เป็น  
            °+กร              สังกร                ทำร่วม              
            °+เกต             สังเกต               ร่วมทำ
            °+ขยา             สัขยา                 การนับรวม       
                °+คม              สังคม                การคบหากัน
            วรรคจะ แผลงนฤคหิต  เป็น  
°+จร               สัญจร                ไปร่วมกัน         
°+ญาน           สัญญาน             เครื่องหมาย
°+ญา              สัญญา               รู้ร่วมกัน           
 °+ชาติ            สัญชาติ             เกิดร่วม
°+ชัย              สัญชัย               ชนะพร้อม        
 °+จร               สัญจร                 การเดินไป
            
วรรคฏะ แผลงนฤคหิต  เป็น  
°+ฐาน           สัณฐาน             ขนาด,รูปร่าง
             
วรรตตะ แผลงนฤคหิต  เป็น  
°+เทศ             สนเทศ             
°+โตษ            สันโดษ          
 °+นิบาต         สันนิบาต
             วรรคปะ แผลงนฤคหิต  เป็น  
            °+ปทาน          สัมปทาน                                  
                °+ผัส              สัมผัส
            °+โภชน์         สัมโภชน์                                 
            °+มุติ              สมมุติ
            °+พุทธ           สัมพุทธ       
           °+ภาษณ์         สัมภาษณ์          
            °+พันธ์           สัมพันธ์         
            °+โพธิ            สัมโพธิ
            เศษวรรค แผลงนฤคหิต  เป็น  
            °+สาร             สังสาร , สงสาร                         
                °+โยค             สังโยค
            °+หรณ์           สังหรณ์                                    
                 °+วร               สังวร
            °+สนทนา       สังสนทนา
นิคหิต สนธิกับ สระ แปลงนิคหิต เป็น      เช่น
สํ + อาทาน       สมาทาน              
สํ + อาคม          สมาคม     
สํ + โอสร         สโมสร    
 สํ + อาจารย์     สมาจารย์         
 สํ + อิทธิ            สมิทธิ          
สํ + อุทัย            สมุทัย
..................................................

หนังสืออ้างอิง

กำชัย  ทองหล่อ . หลักภาษาไทย .พิมพ์ครั้งที่ ๒ . กรุงเทพมหานคร , รวมสานส์ . ๒๕๓๗.
พรทิพย์   แฟงสุด . ภาษาไทย ม.  .  กรุงเทพมหานคร, ฟิสิกส์เซ็นเตอร์ ....