วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ขูลูนางอั้ว

เอกสารประกอบการเรียนรู้วิชาภูมิปัญญาทางภาษาอีสาน

เรื่อง

ขูลูนางอั้ว


เริ่มด้วยบทประณามพจน์ เกริ่นว่าเป็นชาดก  ท้าวขูลู   โอรสเจ้าเมืองกาสี  และนางอั้วเคี่ยมเกิดเป็นธิดาเจ้าเมืองกายนคร    ทั้งสองเมืองมีความสัมพันธ์อันดี   เจ้าเมืองและมเหสีของทั้งสองต่างเป็นเพื่อนกัน  และเคยให้คำมั่นสัญญากันไว้ว่าถ้ามีลูกชายลูกสาวฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะยกให้อภิเษกสมรสกัน   ท้าวขูลูและนางอั้วเคี่ยมเกิดปีเดียวกัน     เมื่อโตขึ้นนางอั้วเคี่ยมมีความงดงามมาก  เล่าลือไปถึงเมืองขุนลาง  ซึ่งเป็นขอมขาก่ำ(เขมรป่าดง)  จึงล่าสัตว์มาถวายเจ้าเมืองกายนคร      เมื่อท้าวขูลูเจริญวัยอยากมีคู่ครอง  จึงลามารดามาเที่ยวเมืองกายนคร  ได้นำเครื่องบรรณาการมาถวายเจ้าเมืองด้วย   ท้าวขูลูและนางอั้วเคี่ยมต่างมีใจปฏิพัทธ์ซึ่งกันและกัน   ท้าวขูลูอยู่ที่เมืองกายระยะหนึ่ง   จึงขอลานางกลับเมืองเพื่อจะส่งผู้ใหญ่มาสู่ขอ
ขุนลางได้ส่งผู้ใหญ่มาสู่ขอนางอั้วเคี่ยม     มารดานางอั้วเคี่ยมไม่รับปากเพราะโกรธมารดาของขูลูซึ่งเป็นเพื่อนกัน  เมื่อครั้งตอนนางตั้งครรภ์นางอั้วเคี่ยม  นางได้ไปเที่ยวอุทยานของเมืองกาสี   ครั้นเห็นผลส้มเกลี้ยงในอุทยานอยากจะกินตามประสาคนแพ้ท้อง  แต่มารดานางอั้วเคี่ยมไม่ให้   อ้างว่าสัมเกลี้ยงยังไม่สุก  นางน้อยใจและด้วยความโกรธจึงตัดความเป็นเพื่อนกัน      นางอั้วเคี่ยม เมื่อทราบข่าวว่ามารดารับปากการสู่ขอของขุนลาง    นางเสียใจและไม่ยอมรับ  นางกล่าวว่าขุนลางเป็นคนนอกศาสนาไม่นับถือพระธรรม   แต่อยากไรก็ตามมารดาของนางอั้วเคี่ยมก็ยังยืนยันที่จะยกนางอั้วให้กับขุนลาง
ฝ่ายท้าวขูลูได้บอกให้บิดามารดามาสู่ขออั้วเคี่ยม          ครั้นแม่สื่อของท้าวขูลูมาสู่ขอมารดาของนางอั้วไม่ยอมตกลง     อ้างว่าได้ตกลงกับฝ่ายขุนลางไว้แล้ว      ขูลูจึงให้บิดาส่งแม่สื่อของสู่ขออีกโดยอ้างข้อตกลงระหว่างบิดาของทั้งสองฝ่ายที่ว่าจะให้บุตรธิดาของแต่ละฝ่ายแต่งงานกัน    แต่มารดานางอั้วก็ได้กล่าวถึงกรณีขอส้มเกลี้ยงคราวนั้น   จึงขอคืนคำสัญญาทั้งหมด            
ในที่สุดก็ตกลงว่าจะทำพิธีเสี่ยงสายแนนคือเชื่อว่าทุกคนจะมีสายรกพัวพันกันอยู่บนเมืองแถนก่อนมาเกิด  และคนเราต้องเป็นคู่กันตามสายแนนนั้น (ตามคำกล่าวคู่จากแถนแนนจากฟ้า)  ถ้าแต่งงานกันผิดสายแนนจะต้องหย่าร้างกัน  ฉะนั้นเพื่อจะดูว่าทั้งสองเป็นคู่กันหรือไม่ต้องทำพิธีเสี่ยงสายแนน      คือให้คนทรงทำพิธีเซ่นพระยาแถนและได้นำของไปถวายพระยาแถน   เพื่อขอดูสายแนนของขูลูและนางอั้ว  พบว่าสายแนนทั้งสองพัวพันกันอยู่    แต่ตอนปลายยอดด้วนและปลายแยกออกจากกัน   ซึ่งแสดงว่าเป็นเนื้อคู่กันแต่ต้องพลัดพรากจากกัน    นอกจากนั้นพบว่าสายแนนของขูลูมีแท่นทองอยู่ด้วย   ซึ่งแสดงว่าเป็นพระโพธิสัตว์     เมื่อแม่สูน(นางทรง,นางเทียม)  กลับมาได้แจ้งว่าทั้งสองเป็นเนื้อคู่กัน   แต่ต้องตายจากกัน
ฝ่ายขุนลางได้ส่งคนมาทาบทามอีกครั้งหนึ่ง        เพื่อกำหนดการอภิเษกสมรสและเพื่อฟังข่าวว่านางอั้วจะตกลงหรือไม่   ส่วนมารดาของนางอั้วก็ตอบตกลงและให้กำหนดแต่งงานในเดือนหน้า   นางอั้วทราบข่าวจึงโศกเศร้าเสียใจมากจึงให้คนรับใช้ไปเชิญท้าวขูลูมาพบ    ท้าวขูลูและนางอั้วได้พบกันและบอกให้นางอั้วคอยตนเองจะกลับไปเมืองกาสีและยกทัพมาชิงเอาตัว
ด้านมารดานางอั้วทราบว่าบุตรตนเองลักลอบพบกับท้าวขูลู   จึงโกรธและต่อว่านางอั้วไปเล่นชู้   ไม่รักนวลสงวนตัว  ทำให้เสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูล  นางอั้วจึงคิดจะฆ่าตัวตาย ก่อนตายกวีได้พรรณนาความในใจของนางอั้วที่ยังอาลัยอาวรณ์กับสิ่งข้าง รอบตัว     โดยเฉพาะได้รำพันถึงพระคุณของมารดา   รำพันร่ำลาปราสาทราชวัง    ญาติและคนใกล้ชิด    ในที่สุดนางก็ผูกคอตายในสวน   ความทราบถึงเจ้าเมืองและมารดาต่างก็เสียใจ  และนำศพเข้าบำเพ็ญกุศล  ส่วนขุนลางก็ถูกธรณีสูบในคราวเดียวกันด้วย
ท้าวขูลูทราบข่าวการตายของนางอั้ว   ท้าวขูลูเสียใจมากเกิดอาการคุล้มคลั่งไม่เป็นอันกินอันนนอน   ประจวบกับผีตายโหงเข้าสิงจึงเอามีดมาแทงคอตนเองตายในที่สุด     ผู้แต่งได้ดำเนินเรื่องย้อนไปถึงอดีตชาติ  ที่ท้าวขูลูและนางอั้วได้ก่อเวรไว้    จึงต้องมารับใช้กรรมในชาตินี้   คือไม่สมหวังในความรัก   ว่า เมื่อชาติก่อนท้าวขูลูเป็นเจ้าเมืองเบ็งซอน      นางอั้วเป็นมเหสีชื่อนางดอกซ้อน     มีผัวเมียคู่หนึ่งไม่ย่ำเกรงนางดอกซ้อนทำให้นางไม่พอใจจึงไปฟ้องให้เจ้าเมืองลงโทษสามีภรรยาคู่นี้    เจ้าเมืองจึงสั่งไม่ให้เป็นผัวเมียกัน   หากพี่น้องคนใดชักนำให้มาอยู่กินเป็นผัวเมียกันอีกจะถูกประหาร  ทำให้ผัวเมียคู่นีเสียใจมาก  ฝ่ายเมียผูดคอตาย และสามีใช้มีดแทงคอตายตามกัน  ทำให้ในชาตินี้ท้าวขูลูและนางอั้วจึงต้องรับกรรมในชาตินี้  ท้าวขูลูและนางอั้วจึงได้ไปสวรรค์และได้พบกันอีกครั้ง
ฝ่ายเมืองกาสีและเมืองกายนคร ก็จัดพิธีงานศพทั้งสอง  และนำมาเผาเคียงคู่กัน  สร้างพระธาตุบรรจุอัฐิทั้งสองไว้ในที่เดียวกัน  ทั้งสองเมืองกลับมาสมัครสมานสามัคคีดังเดิมท้าวขูลูและนางอั้วได้แสดงอภินิหาริย์ให้ชาวเมืองได้เห็น

วันพุธที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2554








คำเป็นคำตาย

คำเป็นคำตาย

คำเป็น   มีลักษณะดังนี้

                . คำที่ประสมด้วยสระเสียงยาวในแม่ ก  กา ที่ไม่มีตัวสะกด  มา ลี  มา หา  แล ดู  ฯลฯ
                . คำที่ผสมด้วยสระ ใอ  ไอ  เอา  เช่น   ใน  ใส  ไฟ  เขา  ไป  เรา     ฯลฯ
                . คำที่ประสมด้วยมาตราตัวสะกดในแม่   กง    กน   กม   เกย   เกอว

คำตาย   มีลักษณะดังนี้
                . คำที่ประสมด้วยสระเสียงสั้นในแม่    กา  ที่ไม่มีตัวสะกด  เช่น   มะ ลิ   ทะ  ลุ    ธุ  ระ      ฯลฯ
                . คำที่ประสมด้วยมาตราตัวสะกดในแม่   กก    กด   กบ   เช่น  นก  กด   อด   กับ  นึก  ออก ฯลฯ
            หมายเหตุ      ถ้าไม่มีตัวสะกดดูที่สระเสียงสั้น (คำตาย) สระเสียงยาว (คำเป็น)
ถ้ามีตัวสะกดดูที่มาตราตัวสะกด (สะกดด้วยแม่  กก  กด  กบ  คำตาย
สะกดตัวแม่  กง      กน  กม  เกย  เกอว   คำเป็น)

ประโยชน์ของคำเป็นคำตาย
                . ใช้ในการผันอักษร
                . ใช้ในการแต่งคำประพันธ์ประเภทโคลง

เพลงไตรยางศ์

เพลงไตรยางศ์
ไตรยางศ์   คืออักษรสามหมู่  ทุกคนควรรู้ทั้งสามหมู่ด้วยกัน
อักษรกลาง มี    ตัวที่สำคัญ  คือ ไก่นั้น    จาน  ใช้ดี
  เด็ก    ชฎา    ปฏัก    เต่า  กินผัก    ใบไม้มากมี
  ปลา  แหวกว่ายในวารี    อ่าง  สวยดีมีขนาดต่างกัน
อักษรสูง  นั้นก็มี  ๑๑    ไข่  ของเป็ด    ฃวด  นำมา
  ฉิ่ง  ตีดังนักหนา    หีบ ยกมา    ฐานเข้ามารอง
  ถุง    ผึ้ง  บินว่อน    ฝา  สีทอง      ศาลา กลางไพร
  ฤาษี  นั้นอยู่ในป่า  เจอ    เสือมา  เผ่นหนีเร็วไว
ขอให้เราจดจำใส่ใจ  อักษรสูงนั้นไซร้มี  ๑๑  ตัว
อักษรต่ำ  นั้นก็มี  ๒๔     ควาย  แสนดีให้    ฅน  ทำนา
  ระฆัง  ตีดังนักหนา   งู  เลื้อยมา  ไปพันขา     ช้างเอย
  โซ่     กระเชอ  สูงตระหง่าน     หญิงโสภา    นางมณโฑ  สวยดี
  ผู้เฒ่า  นั้นน่าสงสาร  มองข้ามลำธาร  เห็น    เณร  เดินมา
 ทหาร   ธง  งามเด่น   หนู  มองเห็น     พาน  ตั้งวาง
 ฟัน    สำเภา  นั้นหนา  มองไปมองมา  เห็น    ม้า  ยืนตรง
 ยักษ์   เรือ  เร็วรี่   ลิง  วิ่งดี    แหวนลงยา
  จุฬา  บินว่อนกลางเวหา  โอ้อนิจจา    นกฮูก   ตาโต

(ลำ)  เลิกใช้แล้วสองโต  ให้จำจื่อ  คือ   ขวด   นั้นไซร้ ๆ
  คน  นั้นให้หมั่นจำ  ขอเน้นย้ำๆ อักษรไทยสามหมู่  อย่าสิลืมแท้ๆ 
อักษรนั้นแต่งมา  จำเถิดนา  สามหมู่นำกัน  อย่าซิลืมสัมพันธ์ที่เกี่ยวกันมาโดนแล้ว
(ขออภัยกำลังฝึกเขียน)

ไตรยางศ์

อักษรกลาง
ไก่ แจ้ ตา ดี อ้า ปาก บอก   
                                        
ไก่ จิก เด็ก  ตาย  บน ปาก โอ่ง
         (ด,ฎ)  (ต,ฏ)               
อักษรสูง
ไข่ ฃวด ฉิ่ง ฐาน ถุง  ผึ้ง  ฝา  ศอก  ฤษี  เสือ  หีบ
                                                
ผี  ฝาก  ถุง    ข้าว     สาร    ให้  ฉัน
        (ถ,ฐ)     (ข ,ฃ)   (ส,ศ,ษ)       
ฉัน ถูก ศอก ของ ษี เสือ ฐาน ให้ ฝาก ฃวด ผี
                                                           
ฉันศึกษาเสือถูกหอกของฝูงผีฐานฃวด
                           
อักษรต่ำ
ควาย ฅน ฆัง งู ช้าง โซ่      เฌอ หญิง โฑ เฒ่า เณร ทอง
                                                                       
ธง หนู พาน ฟัน เภา มอง    ยักษ์ แหวน ลอง รัก  ฬา แฮ